AVATAR (อวตาล) ปี 2009

ผมเป็นคนหนึ่งที่ห่างหายจากโรงหนังไปนานพอสมควร อาจจะเป็นเพราะภารกิจส่วนตัว ที่ทำให้ต้องเป็นเช่นนี้ แต่เมื่อ Dec 26, 2009 ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสดูหนังเรื่องนี้แบบเวลาช่วยโดยบังเอิญ ไปดูที่เมเจอร์ซีเนเพล็กซ์ ในห้างอุดรเจริญศรี คอมเพล็กซ์ จังหวัดอุดรธานี

หนังเรื่อง อวตาล นี้ เป็นผลงานของสุดยอดผู้กำกับหนังแอ็คชั่นในดวงใจผมท่านหนึ่ง คือ เจมส์ คาเมรอน ผมติดตามหนังของคาเมรอน มาตั้งแต่ยุคคนเหล็ก ภาค 1&2, เอเลี่ยน ภาค 1&2, Abyss, คนเหล็กทะลุโลก และล่าสุด TITANIC ซึ่งหนังเรื่อง ไททานิค ทุกท่านก็คงจะทราบดีอยู่แล้วว่า หนังได้สร้างสถิติอะไรต่อมิอะไรมากมาย ก่ายกอง จนคาเมรอน ต้องก่ายหน้าผาก เพราะหากจะสร้างหนังใหม่ต่อจากไททานิค แล้วละก็ จะต้องทำอะไรให้มันตะลึง และเหนือกว่าไททานิคให้ได้ แต่อย่างว่า คาเมรอน อาชีพเขาคือ คนทำหนัง หากไม่ได้ทำหนังแล้วชีวิตนี้ ก็คงไร้ความสุข และนี่คือคำตอบของหนัง อวตาล

อวตาล กล่าวถึงโลกอนาคตอีกมุมหนึ่ง ซึ่งวิทยาศาสตร์มีความก้าวหน้า พัฒนาไปไกลมา ซะจนสามารถเพาะเซลล์มนุษย์ต่างดาว แล้วใช้เครื่องมือยุคซุปเปอร์ไฮเทค ส่งพลังจิตของมนุษย์เข้าไปควบคุมการทำงานของมนุษย์ต่างดาวที่เพาะเชื้อขึ้นมาได้ ซึ่งในหนังได้เรียกว่า อวตาล อันเป็นที่มาของภารกิจหลักขององค์กรการค้าที่เห็นแก่ตัวองค์กรหนึ่ง

เจค ลัคซี่ นาวิกโยธิน ผู้พิการขา ต้องมารับหนาที่แทนพี่ชายของเขาซึ่งเสียชีวิตก่อนหน้านั้นไม่นาน เจคมารับหน้าที่เชื่อมต่อเข้ากับร่างอวตาล ด้วยความบ้าบิ่นของเขา ทำให้เขาได้เข้าไปสู่ชุมชนอวตาล เผ่านาวี แต่นั้นเป็นเพียงการเริ่มต้นภาระกิจของเขา ซึ่งจะต้องหาทางไกล่เกลี่ยให้ชาวนาวีที่อาศัยอยู่ที่นี่มาหลายชั่วชีวิตเหล่านี้ ย้ายที่พักพิงออกไป ทั้งนี้เป็นเพราะเป้าหมายขององค์กรที่จ้างเจค มา คือ แร่ธาตุที่มีราคาสูง ซึ่งฝังอยู่ภายใต้พื้นดินของชาวอวตาลเหล่านี้

เจคในร่างอวตาล เขาได้เรียนรู้ชีวิตชาวเผ่านาวี อย่างลึกซึ้ง และยากที่จะหาผู้ใดเข้าใจเท่าเขาอีกแล้ว

แต่อย่างว่า ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี่ มิได้พัฒนาจิตใจคนให้สูงส่งตามไปด้วย นักธุรกิจผู้ว่าจ้างให้ภาระกิจของเจค กลับมองเพียงเผ่านาวีเหล่านี้ เป็นเพียงแค่ลิงเท่านั้น ความได้เปรียบเรื่องเทคโนโลยี่ และความกระหายสงครามของคน จึงนำมาซึ่งความวิบัติ และการทำลายล้าง

ความพยายามปกป้องพื้นแผ่นดินเกิด และทรัพยากรอันมีค่า จึงนำมาให้เกิดความมีศักดิ์ศรี และต่อสู้ เพื่อแลกมาด้วยอิสรภาพ

เจค จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่าง เรื่องราวสงครามจะจบลงอย่างไร ต้องไปติดตามชมเอาเอง

แฟน ๆ ของ เจมส์ คาเมรอน ห้ามพลาดการดูหนังเรื่องนี้เป็นเด็ดขาด

การวางเรื่องเพื่อให้ผู้ชมได้มีอารมณ์ร่วม, ฉากแอ็คชั่นสุดมันส์, จินตนาการเลิศล้ำ, แอ็ฟเฟค, กราฟฟิค สวยงามสุดยอด และอื่น ๆ ที่เหนือคำบรรยายจริง ๆ 3 ชั่วโมงเต็ม ๆ ดูแล้วไม่มีเบื่อ

สำหรับผมแล้ว AVATAR คือมหากาพย์ภาพยนต์ 5 ดาว เรื่องยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ ทศวรรษ ที่ยากจะหาหนังเรื่องใดเทียบเท่าได้อีกแล้ว

ยอดเยี่ยม จริง ๆ (ว่ะ) สุดยอดจริง ๆ

Dec 28, 2009

หลอน (Hex) ปี 1980

"หลอน -Hex" (หนังปี 1980)

หลังจากคืนวันเสาร์ (Aug 27, 2007) ผมดูเรื่อง เลนส์ตาผีจบ เลยติดใจครับ วันรุ่งขึ้นหยิบเอาหนังเรื่อง หลอน ของยอดผู้กำกับ กุ้ย จิง หง อีกเรื่อง คราวนี้หนังห่างกัน 6 ปี ครับ หยิบมาดูเมื่อคืนนี้เอง สี่ทุ่มกว่า ๆ เห็นหน้าปกก็ชวนสยองขวัญซะแล้ว

หนังเรี่องนี้ใช้คนแสดงไม่เยอะนะครับ มี เที่ยน หนี่, หวัง ชุง และ เฉิน สุ่ย เจี๋ย เจ้าเก่าจาก เลนส์ตาผี ครับ

เรื่องนี้เป็นหนังย้อนยุคนะครับ เครื่องแต่งกาย และฉากอยู่ในยุคปฏิวัติประเทศจีนกันแล้ว หนังกล่าวถึงครอบครัวเก่าแก่ตระกูลหนึ่ง ที่มี เทียนหนี่ และ หวัง ชุง เป็น ภรรยา-สามีกัน เทียนหนี ในเรื่องกำลังป่วยไข้ และต้องมดทนกับสามัใจร้าย เมาเหล้าอาละวาด ตบตี เธอ และคนรับใช้เป็นประจำ จนกระทั่งวันหนึ่ง เฉิน สุ่ย เจี๋ย ปรากฏตัวมาเป็นคนรับใช้คนใหม่ เหตุฆาตกรรมในบ้านก็ได้เกิดขึ้น จากฆาตกรรมกลายเป็นการไล่ล่าหลอกหลอน และสุดท้ายจบด้วยการหักมุม โยงใยกลายไปเป็นหนังคล้าย ๆ นวนิยายโกวเล้ง

พอมาดูหนังเรื่อง หลอน นี้ หลังจากที่ได้ดูเรื่อง เลนส์ตาผี ในคืนวันก่อน ผมกลับมีความเห็นว่า หนังเรื่อง หลอน นี้ เยี่ยมกว่า และดีกว่า เลนส์ตาผี เสียอีก ดนตรีประกอบก็ไพเราะเข้ากับเรื่อง, ถ่ายภาพก็เยี่ยม ฉากสวย วางมุมกล้องออกมาได้ดี ภาพที่ออกมาจึงค่อนข้างสวย และมีศิลปะสูง, ตัวละครก็ไม่มาก ดูแล้วไม่สับสนเวียนหัว, เนื้อเรื่องดี ชวนให้ติดตาม, และที่สำคัญ สยองขวัญด้วย (สยองขวัญโดยไม่ต้องใช้เลือดเปลือง)

ข้อด้อยของหนังเรื่องนี้ ที่ผมไม่ชอบเลยก็มีอยู่บ้างนะครับ คือ ฉากการเต้นจ้ำปะตอนท้าย ซึ่งดูแล้วไม่ค่อยจะเกี่ยวกับตัวหนังซะเท่าไหร่ นะครับ

เป็นไร ไม่รู้ ผมชอบดูหนังผี สยองขวัญ ตอนดึก ๆ มืด ๆ มันเร้าใจดี


Aug 27, 2007

After making successful thrillers, action films, and comedies, director Kuei Chih-hung put his first "hex" on the audience. This eerie, frightening, supernatural mystery thriller was so effective it led to Hex Versus Witchcraft and Hex After Hex. What starts as an Asian variation of the classic French suspense film Diabolique becomes an exercise in fervid and frightening Hong Kong horror as one ghost after another appears to wreak havoc, insanity, and death. (IVL)

เลนส์ตาผี (Ghost Eyes) ปี 1974

เลนส์ตาผี-The Ghost Eyes" (หนังปี 1974 เข้าฉายเมืองไทยปี 1977)

เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากผมได้ดู AF4 จบ (Aug 27, 2007) ก็ปาเข้าไปเกือบห้าทุ่มครึ่ง ผมคิดอย่างไรไม่ทราบดันหยิบหนังผีเก่า ๆ มาดู เรื่อง เลนส์ตาผี ที่กำกับโดย กุ้ย จิง หง ยอดผู้กำกับมือดีของชอว์อีกคน ผลงานที่เด่น ๆ ก็มี เจ้าพ่อถิ่นไอ้โก๋, เจ้าพ่อมหากาฬ แล้วก็ หลอน ปัจจุบัน กุ้ย จิง หง ท่านเสียชีวิตไปแล้วนะครับ เมื่อปี 1999

หนังเรื่องนี้ เป็นหนังเกี่ยวกับผีดิบ ครับ ผีดิบ(นำแสดงโดย Szu Chia) ที่แต่ก่อนเคยเปิดร้านตัดเเว่น แล้วที่ร้านโดนไฟไหม้ครอก ผีดิบของเราเสียชีวิตไป จากนั้น 3 ปีต่อมา ท่านผีดิบ (ผีดิบท่านนี้ อนามัยมากนะครับ คือเป็นผีที่แพ้ควันบุหรี หรือควันธูปต่าง ๆ) ก็ได้ไปเจอะเจอนางเอกเข้า (นำแสดงโดย Chen Szu-chia) เหตุเพราะเธอหน้าตาคล้าแฟนเก่า และประจวบเหมาะที่แว่นของเธอเสียหายพอดี นางเอก เฉิน สุ่ย เจี๋ย เราเลยไปหลงกล พ่อผีดิบรูปหล่อเข้า ด้วยการต้องมาสวมใส่คอนแท็คส์เลนส์ผี เข้า คราวนี้ ก็เลยได้เรื่อง เธอต้องตกเป็นทาส ตามคำสั่งของผีดิบ นางเอกของเราจะเอาตัวรอดจากผีดิบได้อย่างไร ??? (ต้องขออภัยด้วยนะครับ เวลาผมดูหนังไม่ค่อยจะจำชื่อตัวละครในเรื่องซะเท่าไหร่ จำแต่หน้าดาราเอง)

การปรากฏตัวของพ่อผีดิบ Szu Chia ในแต่ละฉาก จะมาพร้อมกับเสียงผิวปากเพลง ปู้ เหลี่ยว ฉิน ตลอด คิดเอาเองแล้วกันว่า บรรยากาศวังเวง แค่ไหน กับการที่ผมต้องดูหนังเรื่องนี้ ตอนเที่ยงคืนกว่า ๆ แล้ว

หนังดำเนินเรื่องได้ค่อนข้างดีครับ เขย่าขวัญ ตื่นเต้น ชวนติดตามมาก ๆ ดาราทุกท่านเล่นได้ดีมาก ๆ จนดูแทบจะไม่น่าเชื่อเลยว่า หนังเรื่องนี้สร้างมา 30 กว่าปีแล้ว และที่สำคัญเป็นหนังผีด้วย

ไม่เหมือนหนังผีไทย, จีน, เกาหลี และญี่ปุ่นสมัยนี้ ที่ชอบเล่นบทสยองขวัญด้วยการ ละเลงเลือดสีแดงกันสด ๆ, โชว์ศพกันแบบดิบ ๆ แสดงภาพแบบไม่น่าชม ชวนอาเจียร แล้วก็ทำให้คนคิดว่ามันสยองขวัญ

Aug 27, 2007

International gore hounds agree: nobody makes horror films like the Shaw Brothers Studio. Kuei Chih-hung, who had already made his name by directing such shameless thrillers as The Bamboo House Of Dolls here brings his vicious touch to a violent, sexy story with one clear moral: never accept contact lenses from a psycho ghost. Poor Chen Szu-chia does just that, and pays for it with her body (in every sense of the word) and the gruesome death of her friends. (IVL)

อสูรเพชรฆาต (The Assassin) ปี 1967

อสูรเพชรฆาต คือ ภาพยนต์สุดยอดเรื่องหนึ่งที่ผมได้หยิบมันขึ้นมาดูแล้วดูอีก ซึ่งหากยุคนี้ไม่มีแผ่นดีวีดีแล้วละก้อ เปรียบเป็นม้วนฟิลม์ สงสัยฟิลม์คงพังไปแล้ว (เพราะดูไป ก็ดูมา หลายรอบ ทีเดียว)

อสูรเพชรฆาต กล่าวถึงจอมยุทธผู้กล้าท่านหนึ่ง ซึ่งมีตัวตนปรากฏอยู่จริง ในประวัติศาสตร์จีนยุคชุนชิว นาม เนี่ย เจิ้ง (นำแสดงโดย หวังอยู่) ซึ่งเป็นคนที่มีความกตัญญูต่อครอบครับ และมีอุดมการณ์ในชีวิตอย่างแน่วแน่ ชาตินี้หากไม่ได้ทำงานใหญ่ประดับวงการซะงาน แก่ตายไปก็เท่านั้น

เนี่ย เจิ้ง ได้รับคำไหว้วานให้ไปลอบสังหารอำมาตย์กังฉิน นาม หลี ขุย แห่งแคว้นเหว่ย เพื่อเป็นการตัดไม้ข่มนาม กับพวกหัวเมืองใจเสาะทั้งหลาย ไม่ให้ยอมอ่อนน้อมเป็นเมืองขึ้นแก่แคว้นฉิน

ปฏิบัติการลอบสังหารจึงเกิดขึ้น แต่เหนืออื่นใด ซึ่งถือว่าเป็น ไคลแม็กซ์ ของเรื่อง และเป็นที่กล่าวขวัญถึง คือ ภายหลังที่เขาลอบสังหารเสร็จ เนี้ยเจิ้ง ได้ฆ่าตัวตาย โดยการควักไส้ และกรีดใบหน้าตัวเอง เพื่อไม่ให้ใครสามารถจดจำใบหน้าของเขาได้ว่า เขาคื่อใคร และจะไม่เป็นภาระไปเดือดร้อนถึงครอบครัวได้ ศพของเนี่ยเจิ้ง ถูกวางไว้หน้าประตูเมือง ด้วยรางวัลล่อใจถึง 1,000 ตำลึงทอง หากใครสามารถมาชี้ตัวบอกชื่อเพชรฆาตใจเด็ดผู้นี้ได้

อสูรเพชรฆาต เป็นหนังของบริษัท ชอว์ บราเดอร์ อำนวยการสร้างโดย เซอร์ รัน รัน ชอว์ กำกับ และเขียนบท โดย ปรมาจารย์ จาง เชอะ ออกฉายในฮ่องกงในปี 1967 หลังจากที่หนังเรื่องเดชไอ้ด้วน ทำรายได้ถล่มทลายทั่วเอเชีย มาแล้ว และก็ไม่น่าเชื่ออีกเช่นกันว่า จางเชอะ ท่านจะกล้าฉีกแนวทำหนังแนวดราม่า แอ็คชั่น ต่อจากเดชไอ้ด้วน ได้ดีเยี่ยมขนาดนี้

ส่วนอีกคน ที่จะอดกล่าวถึง เสียมิได้ ก็คือ ยอดดาราซูปเปอร์สตาร์ หวัง อยู่ ซึ่งแสดงเป็น เนี่ย เจิ้ง ได้ดีมาก ๆ อย่างไร้ที่ติ หน้าตาที่โหดเหี้ยม ดุดัน ไร้รอยยิ้ม หุ่นสูงเต็มไปด้วยมัดกล้าม สวมเสื้อขาวที่เปื้อนเลือด อย่างทรนง องอาจ มาดขุนพล ยอดเยี่ยม มาก ๆ ครับ หนังเรื่องนี้ พลาดไม่ได้ ครับ

In the same year director/writer Chang Cheh and star Jimmy Wang Yu revolutionized Hong Kong kung-fu cinema with One-Armed Swordsman, they also collaborated on this epic of the Six Kingdoms era. Here, Yu is a two-armed swordsman who is betrayed by a jealous rival, but initially seeks a life of simple pleasures until an accidental meeting with another patriot sets him back on the road to bloody, brutal vengeance. (IVL)

บันทึกลับ คาวสวาท (Diary of A Lady-killer) ปี 1969

Dairy of A Lady-killer หนังชอว์ บราเดอร์ ที่ออกฉายในปี 1969 ผมขอตั้งชื่อหนังเรื่องนี้ให้ว่า บันทึกลับ คาวสวาท (ไม่ทราบเหมือนกันว่าเมื่อก่อนตอนฉายโรง ใช้ชื่อว่าอะไร) หนังเรื่องนี้ผมโหลดมาจากอินเตอร์เน็ท เพิ่งเอามาเปิดดูเมื่อวาน (Dec 04, 2009)

หนังกล่าวถึง เกาเหลียง หนุ่มเพลย์บอยคนหนึ่ง ที่กลางค่ำ กลางคืน ไม่รู้จักนอน เที่ยวตระเวณราตรี หว่านเสน่ห์สวาทให้สาว ๆ ได้หลงไหล แล้วก็จากไป อย่างไม่ใยดี

แต่อย่างว่า หญิงสาวในยุคโน้น ค่อนข้างจะ sensitive รักใครเข้าแล้ว ถูกทิ้งอย่างง่าย ๆ จะมีด้วยรึ... เรื่องของเรื่องก็เมือ 1 ในหญิงสาวที่เป็นเหยือถูกทิ้ง เครียด ท้องไม่มีพ่อ มา 6 เดือน คิดสั้น ฆ่าตัวตาย เป็นคดีใหญ่โต ร้อนถึงพี่สาวที่ต้องการจะล้างแค้น หนุ่มเพลยบอยคนนั้นซะ

หนุ่มเพลยบอย เกาเหลียง คนนั้นนำแสดงโดย ฉินฮั่น ดารารุ่นใหญ่ ซึ่งก้อมีคู่หมั้นอยู่แล้ว คือ เสียวหลาน นางเอกหน้าหวาน (นำแสดงโดย ฟาง หยิน) ความเพลยบอยของบเขา ทำให้ความรัก เริ่มมีอุปสรรค์ขึ้น

ความแค้น กลายเป็นคดีปริศนาฆาตกรรม ที่ลามปรามไปถึงคู่สัมพันธ์สวาทของเกาเหลียงในแต่ละราย ๆ ไป, นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของรักสามเศร้า ชิงรัก หักสวาท และลงเอยด้วยความตาย

สุดท้าย จะเป็นอย่างไร ก็ต้องตามไปดู และสืบสวนกันเอาเอง

ดูมาแล้ว ก็เอามาบันทึกเล่น ๆ จะได้จำได้ ว่าเคยดูมาแล้ว

หนังเรื่องนี้ ก็พอชมได้นะครับ ในยุคนั้น ก็คงตื่นเต้นดี โดยเฉพาะฉากศพที่โผล่ออกมาจากตู้เย็น

คลาสสิค ดี ... แต่ถ้าไม่ได้ดู ก็ไม่เป็นไร ครับ

อ้อ.. ในหนังยังมีดารารุ่นใหญ่เล่นอีกท่าน คือ มาร์กาเร็ต ตู้ ชวน ซึ่งรับบทในหนังค่อนข้างตกต่ำมาก ๆ จนแทบไม่น่าเชื่อ และหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นหนังเรื่องสุดท้ายของในชีวิตการแสดงของเธอ อีกด้วย มาร์กาเร็ต ตู้ ชวน คือ ดาราอีกท่านทีเลือกทางเดินแบบ ฆ่าตัวตาย (Suicide) ในปี 1969 จบชีวิตด้วยวัย 29 ปี ตามรอย หลินไต้, เล่อตี้ ไปอีกคน

If Agatha Christie was Asian, then Diary of Lady-Killer could well have been one of her burgeoning projects. The film flawlessly floats between murder mystery mayhem and light hearted eroticism as a man that has sexual affairs with every female that looks at him twice, finds them dead shortly thereafter, making him the prime suspect. Yet after he's convicted and tossed into prison, the murders continue. He's innocent. But who did it? (IVL)

หลอน ตัด หลอน (Hex VS Witchcrift) ปี 1980

ช่วงนี้วันหยุดเยอะหน่อย เลยมีเวลาเอาหนังในโกดัง มาเปิดดู เมื่อวาน (Dec 10, 2009) ก็หยิบเอาหนังเรา Hex vs Witchcraft หนังของยอดผู้กำกับจอมหลอน กุ้ย จิง หง ซึ่งเป็นหนังทำรายได้สูงสุดอันดับ 2 ของชอว์ บราเดอร์ ในปี 1980 แต่เรื่องนี้ตรวจสอบดูแล้วไม่ได้เข้าฉายในเมืองไทย ครับ เพราะกรรไกร กบว.ในบ้านเรายุคนั้นคงจะคมพอสมควร ตัดภาพวาบหวามที่อยู่ในหนังออกไปเยอะ จนหนังอาจจะขาดสีสันได้ หากนำออกฉาย

เมื่อไม่ได้เข้าฉายในไทย ผมเลยขอตั้งชื่อหนังเรื่องนี้เองว่า หลอน ตัด หลอน ครับ

อาไค (นำแสดงโดย I Lei) ผีพนันตัวยง ช่วงนี้ดวงไม่ขึ้น เล่นพนันอะไรก็พ่ายแพ้หมดตัวไปซะทุกอย่าง หนี้สินที่เกิดขึ้นในบ่อนก็มากมายจนต้องหาทางออกให้ชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย เขาหาวิธีฆ่าตัวตาย ต่าง ๆ นานา แต่สุดท้าย ก็ไม่ตาย ซะที หนังดำเนินไปเกือบ 40 นาที ลาภลอยก็เกิดขึ้นกับอาไคจนได้ แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว อาไค ต้องแต่งงานกับผี ซึ่งก็ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไป แต่นิสัยเดิม ๆ เรื่องการพนันยังไม่เปลี่ยน ชาตินี้หากไม่ชนะพนันในบ่อนก็ไร้ความสุข อาไคจึงพาเมียผีเข้าบ่อน แล้วเหตุการณ์ความมันส์ไคลแมกซ์ของหนัง ระดับ Hex vs Witchcraft ก็เกิดขึ้น ตะลึง และสะท้านไปทั้งบ่อน

หนังเรื่องนี้ ทาง IVL จัดให้เป็นหนังแนว Horror แต่สำหรับผมแล้ว เป็นหนังที่เรียกเสียงหัวเราะให้ผมได้หลายช็อตทีเดียว ผมมองว่าเป็นหนังตลกซะมากกว่านะครับ หนังดูได้คลายเครียด สบาย ๆ ครับ และคงจะผิดคาดกับแฟน หนังสยองขวัญของ กุ้ย จิง หง ซึ่งคงตั้งความหวังไว้ว่า หนังเรื่องนี้คงจะหลอน สุด ๆ แบบ หลอน (Hex) ที่เพิ่งออกฉายมาก่อนหน้านั้น และทำเงินได้มากกว่าหนังเรื่อง หลอน (Hex) ซะอีก

Here director Kuei Chih-hung gets to combine his love of hilarious comedies (Mr. Funny-Bone) with bone-chilling horror (Ghost Eyes) in a tale of a marriage made in hell! A compulsive gambler's botched suicide attempt, results in his wedding to a ghost who haunts him in weird, wonderful, horrid, and hilarious ways. She even comes to the rescue after he's robbed, leading to a fitting and funny conclusion to a singular comedic horror film of fate and phantoms. (By IVL)